ร่วมคิดร่วมคุย (ฉบับ 14)

ร่วมคิดร่วมคุย :จากคนติดพนัน สู่การเป็นคนแก้ปัญหาพนัน???

สัมภาษณ์พิเศษ :คุณ สรวิศ สิริวลัญชัย

 

สัมภาษณ์โดย : อรรถสิทธิ์ พานแก้ว พิชญา วิทูรกิจจา

เรียงเรียงโดย: ชนิกานต์ กาญจนสาลี สุวลัย เมืองเจริญ


          หลายครั้งที่เราพาผู้อ่านไปรู้จักและทำความเข้าใจ ผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาปัญหาการพนันมาอย่างเจาะลึกจากหลายแวดวงวิชาชีพ  แต่ครั้งนี้เราจะชวนมาพูดคุยและทำความรู้จัก กับ นักกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเยาวชน ตัวจริง จาก Page shock go rat street art

          ภาพจำของคนทำงานด้านนี้ หลายคนยังเชื่อว่าต้องเป็นคนต้นแบบ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการพนัน และไม่เคยแตะต้องการพนันแม้แต่น้อย… แต่คำถามก็คือ คนทำงานเหล่านี้เข้าใจปัญหาการพนันในมุมมองหรือมิติไหน

          การได้พูดคุยกับ คุณสรวิศ สิริวลัญชัย Page shock go rat street art ทำให้เปิดมุมมองต่อปัญหาการพนันในภาพกว้าง ทั้งผลกระทบ วิธีคิดและการออกแบบที่หล่อหลอมให้คนติดการพนัน ยังเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาให้ถึงแก่น และการสร้างงานวิจัยที่เปิดเผยถึงผลกระทบจากการพนันในประเทศไทย ที่ปัจจุบันอาจจะยังมีไม่มากนัก

      การเปิดเผยทัศนะ และประสบการณ์ชีวิตบางเสี้ยวของนักกิจกรรมคนนี้ คือ นำสิ่งที่ค้นพบจากตัวเอง และอธิบายความสนุกสนานชั่ววูบของประสบการณ์ที่กลายเป็นผู้มีปัญหาด้านการพนัน น่าสนใจว่าชุดประสบการณ์

      ทั้งหมดต่อไปนี้ คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่องานแคมเปญ เพื่อแก้ปัญหาพนันไปยังระดับนโยบายได้อย่างไร 

 

อะไรคือที่มาที่ไปหรือแรงบันดาลใจที่สนใจจะเข้ามาทำงานเกี่ยวกับประเด็นปัญหาการพนันในเด็กและเยาวชน?

          เริ่มต้นจากการได้รับโอกาสในงานของมิชชันนารี ชื่ออาจารย์สก๊อต ศูนย์คริสเตียนเชียงราย ชักชวนให้ร่วมงานด้านเด็กและเยาวชน โดยเริ่มต้นงานดูแลกลุ่มผู้ติดเชื้อและได้รับผลกระทบจาก HIV งานส่งเสริมอาชีพผู้ติดเชื้อในเรือนจำและในชุมชน จากงานพัฒนาได้เรียนรู้การทำงานผ่านกิจกรรม การวาดภาพการสอนเด็ก การอบรม และส่วนตัวเป็นคนสนุกกับการสร้างสรรค์กิจกรรม หลังจากนั้นได้พบกับคุณตองซึ่งทำงานวิชาการด้านนโยบายสาธารณะเดินทางมาจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานการณ์การพนันในพื้นที่ภาคเหนือ จึงได้ชักชวนเข้าร่วมรับฟังถึงสถานการณ์และผลกระทบการพนันซึ่งเป็นประเด็นการทำงานพัฒนาในมิติสุขภาพ ทำให้ตนเองเข้าใจถึงความรู้ชุดใหม่ที่สังคมไทยยังต้องทำงานด้านการสร้างความตระหนักถึงปัญหาภัยการพนัน และการสร้างระบบการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการพนันอย่างเข้มข้น ด้วยตัวเองเคยเป็นผู้ที่เคยมีปัญหาติดการพนันมาก่อน ทำให้เข้าใจถึงผลกระทบในมิติสุขภาพจากปัญหาการพนันเป็นพิเศษ เพราะระหว่างช่วงการทำงานพัฒนา 15 ปี ผมมีประสบการณ์ด้านมืด 8 ปี กับการติดการพนันทายผลฟุตบอล เพราะคิดว่าการพนันเป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเรา

 

“…มีคนตามทวงหนี้ เสียงาน ยืมเงินเพื่อน โกหกคนอื่นเพื่อให้ได้เงิน เคยมีเจ้าหนี้พาพรรคพวกบุกมาที่บ้าน จึงต้องย้ายออกจากบ้านไปเพราะกลัวส่งผลกระทบกับทางบ้าน ในที่สุดไม่เหลืออะไรเลย…”

 

คุณเคยอยู่ในแวดวงการพนันถึงกับยอมรับว่าเป็นนักเล่นคนนึง นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ ในแวดวงคนทำงานด้านนี้ ?

          จากจุดเริ่มต้น คือเพื่อนชวนไปร้านเหล้า เปิดให้ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลและมีการวางเดิมพันเพื่อความสนุก จึงลองแทงพนันบอลเริ่มจาก คู่ละ 200 บาท ปรากฏว่าทีมที่เลือก“ชนะ” ทำให้รู้สึกว่าสามารถวิเคราะห์ผลแพ้ชนะได้ หลังจากนั้นก็เริ่มเล่นพนันที่หนักขึ้น คู่ละ 500-5,000 บาท ยอดเดิมพันสูงสุด คือ คืนหนึ่งเล่นพนัน 25,000 บาท ในขณะที่เงินเดือนจากการทำงานแค่ 6,000 บาท เริ่มเข้าสู่วงจรหนี้สินจากพนันเพราะความ ต้องการเอาชนะเจ้ามือ และอยากได้คืนเงินวางเดิมพัน จนส่งผลกระทบกับการทำงาน เจ้าหนี้พนัน บุกทวงเงินที่สำนักงาน แม้กระทั่งเจ้านายให้โอกาสในการแก้ปัญหาผลกระทบจากพนี้พนันด้วยการให้เบิกเงินเดือนล่วงหน้า เพื่อชำระหนี้ โดยหักคืนจากเงินเดือน เดือนละ 1,000 บาท แต่แค่ 3-4 เดือนเราก็กลับมาเล่นใหม่ เพราะมีคนช่วยเหลือเรื่องหนี้สิน“มันใช่เลย” ตรงกับที่จิตแพทย์ให้หลักกลไกการทำงานของผู้ที่มีปัญหาติดการพนันไว้

 

อยากให้เล่าถึงตอนนั้นว่าการพนันมันส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณอย่างไร ?

        ผลกระทบในชีวิตตอนนั้นคือ มีคนตามทวงหนี้ เสียงาน ยืมเงินเพื่อน โกหกคนอื่นเพื่อให้ได้เงิน เคยมีเจ้าหนี้พาพรรคพวกบุกมาที่บ้าน จึงต้องย้ายออกจากบ้านไปเพราะกลัวส่งผลกระทบกับทางบ้าน ในที่สุดไม่เหลืออะไรเลย รถก็เอาไปขาย โทรศัพท์ก็ขาย ไปที่ไหนเพื่อนก็ไม่อยากต้อนรับเพราะกลัวยืมเงิน ไปกินฟรี เวลาไม่มีตังค์ก็จะหยุดเล่น ถ้ามีก็จะเล่น เล่นแทบทุกแมทช์ ทั้งเล่นประเภทบอลสเต็ป ที่ต้องเล่น 3 ทีมขึ้นไป และระยะหลังเริ่มมีเล่นผ่านแอพลิเคชั่น และทุกวันนี้สามารถเล่นพนันผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่าย มีเพียง 50 บาทก็เล่นได้ และยิ่งมือถือกับ E-banking โอนเงินง่ายมีความสะดวก ที่น่ากลัวกว่าเดิมมาก คือความถี่และชนิดของการพนันกับการทายผลกีฬามีความหลากหลายขึ้นมาก และถ้าเพื่อนฝากแทงเราก็จะยิ่งได้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์เพิ่ม เด็กเยาวชนหลายคนจึงใช้วิธีการนี้ในการหารายได้นอกเหนือจากการเรียนในมหาวิทยาลัย เด็กและเยาวชนหลายคนทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์หรือเป็นผู้ประสานกับเจ้ามือรับทายผลพนันฟุตบอล

 

คุณมองว่าเด็กและเยาวชนของเรามีเรื่องที่น่าห่วงเรื่องการพนันข้อไหนมากที่สุด?

          พนันฟุตบอลออนไลน์ พนันทายผลกีฬา ในยุค 4.0 มันสะดวกไปหมด เข้าถึงง่าย เร็ว หลากหลายช่องทาง ปลอมไอดีก็ได้ เอาไอดีของเพื่อนพี่ชายก็ได้ โกงอายุก็ได้ มีเงินในบัญชีก็จบ นอกจากฟุตบอลออนไลน์แล้ว ยังมีการพนันชนิดอื่น ๆ เช่น บาคาร่า ไพ่ ทำให้เยาวชนสามารถที่จะเลือกเล่นได้หลากหลาย และปัจจุบันจากการทำงานกับเยาวชนที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ยังพบว่า มีการเล่นการพนันผ่านวัฒนธรรม แต่ละชุมชนก็จะมีการเล่นการพนันที่แฝงตั้งแต่เด็ก หรือกระทั่งเราก็เคยเล่นสมัยเด็ก ๆ เช่น เป่ากบ โดยเหรียญ เป่ายิงฉุบ แต่จริง ๆ แล้วพอได้มาเรียนรู้จากนักวิชาการที่ได้เก็บข้อมูลและสถิติต่าง ๆ พบว่า สภาพแวดล้อมจากครอบครัวปลูกฝังพฤติกรรมการชอบลุ้น ชอบความเสี่ยง ซึ่งเราเองอาจไม่เคยเข้าใจว่าอารมณ์และพฤติกรรมมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เมื่อมีโอกาสจึงได้ทบทวนช่วงชีวิตในวัยเด็ก คุณแม่ต้องเข้าเวรพยาบาลฝากเราไว้ที่บ้านพ่อ ซึมซับเสียงลุ้นพนันดังตลอด กระทั่งโตขึ้น ก็เข้าใจว่าที่บ้านคุณปู่คุณย่าเป็นบ่อน เล่นการพนันกันในหมู่ญาติพี่น้อง เล่นไพ่ ไฮโลกันเสียงดัง ซึ่งส่งผลกระทบทางพฤติกรรมมายังเราตั้งแต่เด็ก การได้ยินได้เห็น ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมการพนัน แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่ามันไม่ดีก็เลยร่วมเล่น

          นอกจากนี้ปัญหาสังคมหลายด้าน ล้วนเริ่มต้นจากการพนันเล็กๆน้อยๆในกลุ่มเยาวชน ปัจจุบันเราไม่ได้พูดถึงแค่ปัญหาเรื่องข้อบัญญัติหรือข้อกฎหมายว่าด้วยการพนัน ประเภท ก. ประเภท ข. การแทงบอลหรือการเล่นในบ่อนเท่านั้น เราพบว่ามีกลยุทธการตลาดที่แฝงเร้นกลไกการพนัน ที่เข้าข่ายพิจารณาองค์ประกอบได้ คือ 1. การวางเงินเดิมพัน 2. มีความหวัง 3. มีของรางวัลล่อใจ ผลที่ได้เป็นความบังเอิญไม่ใช่โชค เช่น เราบอกว่า โชคดีนะที่ถูกเลข คำว่าโชค คนไทยใช้บ่อย ผูกเรื่องพนันกับความเชื่อ และเรื่องโชคลาง ไสยศาสตร์ เทพต่าง ๆ เลขท้ายรถ วันที่วันเกิด มันเป็นความเชื่อไม่ใช่โชคแต่เป็นความบังเอิญถูก และมีคำว่าเกือบ เยาวชนก็ติดกับดักตรงนี้ ตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อแม่ก็บอกให้หยิบล็อตเตอรี่ เช่น วันนี้วันเกิดลูกให้จับมาซักใบ แต่เด็กคิดว่าจับแล้วพ่อแม่ยิ้มมีความสุข โตมาเขาก็ซื้อบ้าง 80 บาทไม่เป็นไร และทางการแพทย์ก็มีผลวิจัยว่ายิ่งเล่นก็ยิ่งติด เมื่อไม่ได้เล่นก็จะรู้สึกหงอยเหงา และเมื่อเล่นก็ไม่รู้สึกพอ เพรามันไม่ชนะ เขาก็เพิ่มปริมาณในการเล่นไปเรื่อย ๆ

 

“วันที่ 1 และ16 สี่โมงเป็นต้นไป ดูในเฟซบุ๊กจะมีคนออกมาบ่นและพูดถึงเรื่องนี้กันจนเป็นเรื่องปกติ นี่คือการมอมเมา ก็เลยมองว่ากฎหมายอ่อน ไม่กล้าฟันธง โบราณไม่อัพเดท”

มองมาตรการการจัดการปัญหาการพนันในสังคมปัจจุบันว่าอย่างไร?

          มองถึงเรื่องกฎหมายของเรายังมีความไม่ทันสมัย พรบ.การพนัน พ.ศ. 2478 บัญญัติว่ามีการพนันที่ถูกกฎหมาย 3 อย่าง ในเมืองไทย คือ 1. มวย ที่ต่อยในสนามมวย 2. การแข่งม้า ในสนามม้า และ 3. สลากกินแบ่งรัฐบาล ดังนั้น ผมจึงคิดว่ารัฐยังไม่กล้าฟันธง เรื่องการพนันและผลิตภัณฑ์การพนันในรูปแบบใหม่ ที่มากับช่องทางออนไลน์ ใช้วาทกรรมเรื่องการเสี่ยงโชค แต่ขออนุญาตจัดกิจกรรมภายใต้ พรบ.การพนัน แท้จริงแล้วรูปแบบการเสี่ยงโชค ก็คือการพนัน ผมมองว่าเพราะตรงนี้เป็นรายได้หลักของรัฐ ซึ่งตอนนี้ก็มีการโปรโมท มีการทำการตลาดผ่านการปล่อยข่าว ยกตัวอย่างเช่น “แม่ค้าส้มตำในตลาดบังเอิญฝันว่าสามีรถชน ไปซื้อหวยสิบล้านโชคดีมาก” โดยประโคมข่าวให้คนคิดว่าเขาเป็นแค่แม่ค้าในตลาดเองแต่ไปซื้อล็อตเตอรี่ยังถูกได้เลย

          อีกทั้งกฎหมายไม่ชัดเจน และการเขียนระบุไว้ว่า อายุต่ำกว่า 18 ปี ซื้อไม่ได้ แต่การควบคุมมันทำไม่ได้จริง ถ้าเด็กเอาเงิน 80 บาทไปซื้อกับแม่ค้าขายล็อตเตอรี่ จะมีแม่ค้าสักกี่คนที่ไม่ขายให้เพราะอายุไม่ถึง จรรยาบรรณของผู้ประกอบการธุรกิจการพนันยังไม่ครอบคลุมในความเป็นจริง

 

แสดงว่ารัฐเป็นส่วนหนึ่งของการมอมเมาประชาชน?

          รัฐเป็นเจ้าของผลงานนี้เลยครับที่เป็นปัญหา เพราะมองว่าล็อตเตอรี่ไม่ใช่ปัญหา ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงคนนึงโพสต์เฟซบุ๊กว่าเลิกเล่นแล้ว และนำเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า ในรูปไม่ใช่ใบเดียวแต่เป็นชุดหลายใบ แต่เพิ่งจะเลิก แสดงว่าที่ผ่านมาแต่ละงวดหมดเงินไปเท่าไร ดังนั้น นี่ไม่ใช่การพนันหรอกเหรอ มันมอมเมาประชาชนนะครับ เดือนหนึ่งมีสองครั้ง เราไม่นับหวยหุ้น หรือหวยปิงปองที่เล่นขำ ๆ ตามหมู่บ้าน บางคนคิดว่าควบคุมการเล่นได้ เช่น มี 100 บาท จะเล่นแค่นี้ แต่อย่าลืมว่าเดือนหนึ่งมี 2 ครั้ง ถ้าเล่นทุกเดือนเดือนละ 200 บาท ครบ 1 ปี เป็นเงิน 2,400 บาท และถ้าบางคนเล่นจำนวนที่มากกว่านั้นหลักพันหลักหมื่นจะเสียเงินไปเท่าไร เงินที่เสียไปอาจจะนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ ได้อีก

          และที่สำคัญคือเรื่องผลกระทบที่ส่งผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม วันที่ 1 และ16 สี่โมงเป็นต้นไป ดูในเฟซบุ๊กจะมีคนออกมาบ่นและพูดถึงเรื่องนี้กันจนเป็นเรื่องปกติ นี่คือการมอมเมา ก็เลยมองว่ากฎหมายอ่อน ไม่กล้าฟันธง โบราณไม่อัพเดท เพราะประเภทของการพนันที่ถูกห้ามทุกวันนี้ยังมีการพนันรูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้น เช่น ออนไลน์ผ่านโทรศัพท์ ปัจจุบันเด็กเข้าถึงผ่านแอพพลิเคชั่นแล้ว เช่น ไปเจอที่แม่สะเรียงเด็กใช้แอพพลิเคชั่นทอยลูกเต๋าเสี่ยงทายกันใครถูกก็จ่ายตังค์  ตอนหลังครูก็จับได้ว่ามุงอะไรกัน เลยพัฒนาเล่นอยู่กันคนละมุม มือถือคนละเครื่อง ครูต้องอาศัยอยู่บนอาคารแล้วสอดส่องลงมาดู  ดังนั้น ควรเขียนกฎหมายขึ้นมาใหม่ที่มันชัดเจน และตรงกับสภาพสถานการณ์ปัจจุบันอย่างมีความกล้า

 

มองว่าหน่วยงานหรือองค์กรใดที่ควรรับผิดชอบต่อประเด็นนี้?

          ผมมองว่ารัฐเป็นแกนหลักที่สำคัญ เวลาไปคุยในโรงเรียนพูดเรื่องหวย เรื่องความเชื่อผิดผิดเกี่ยวกับการพนัน ครูยิ้ม ทำให้รู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือในสิ่งที่เราพูดเหรอ กลายเป็นเรื่องตลก เรามองว่าผู้ที่เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ที่ทำงานอยู่ใกล้ชิดกับเด็ก คือสถานศึกษาที่จะต้องมีความมั่นคง มีภาพลักษณ์ที่จะมีความรับผิดชอบ แนะนำให้คำปรึกษาที่เหมาะสม มีช่วงหนึ่งที่ สสส. รณรงค์เรื่องดื่มเหล้า โดยบอกว่าถ้าไม่ดื่มไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ดื่มมีเงินเก็บ ไม่ดื่มเอาเงินไปให้ลูก เป็นต้น เช่นกัน การพนันก็อาจจะไม่ต้องตรงไปตรงมาว่าการพนันมันเลว มันแย่ แต่อาจจะรณรงค์ในรูปแบบนี้ก็ได้ เราก็ถือว่าคนติดการพนันเป็นเสมือนผู้ป่วยก็ได้ เช่น กรณีเราเองเล่นพนันสิบกว่าปี โดย 8 ปีที่ทำงานกับเยาวชนผ่านองค์กรศาสนาก็ยังเล่น เพราะคิดว่าไม่ส่งผล เพราะเป็นพฤติกรรมส่วนตัวไม่เกี่ยวกับงาน แต่กลายเป็นว่ามันส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมเราทั้งหมด เรื่องอารมณ์ เสียสมาธิ เวลาจะสอนก็ห่วงว่าเจ้าหนี้จะมาทวงหรือไม่ ก็เหมือนกันที่หลายคนคิดว่ามันไม่เป็นไร พ่อแม่ติดหวยเหมือนกัน ก็ส่งผล ลูกก็จะไม่ได้รับสิ่งที่ควรจะได้รับอย่างครบถ้วนแต่กลายเป็นต้องแบ่งเงินดูแลลูกมาเล่นการพนันแทน และที่สำคัญ บ้านเกิดผมจังหวัดเชียงราย มีพรมแดนที่ติดกับประเทศที่มีบ่อนคาสิโนล้อมรอบ มีรถมารับถึงสถามบิน มีบริการครบถ้วน ผมออกมาได้เพราะ งานที่เราสอนเรื่องการรู้เท่าทันการพนันนี้อยู่ เราเลยต้องเป็นแบบอย่าง เช่น เดียวกับคุณครู ต้องเป็นแบบอย่างให้ได้และสอนให้เด็กตระหนักได้ด้วย

 

ปัญหาอุปสรรคที่สื่อสารกับเด็กและเยาวชนเวลาเข้าไปให้ความรู้และจัดกิจกรรม?

          เครื่องมือที่ยังไม่แพร่หลาย เช่น งานวิจัยหลายอย่างยังไม่สามารถนำเสนอออกมาสู่สาธารณะได้ ข้อมูลเหล่านี้มันลงมาไม่ถึง ไม่สามารถดึงเอาข้อมูลมาเผยแพร่ต่อให้เด็กและเยาวชนหรือคนทั่วไปให้รับรู้ได้ เพราะความที่เป็นลิขสิทธิ์ทางวิชาการ ทำให้การเผยแพร่ความรู้มีข้อจำกัดอยู่มาก และเวลาที่เข้าไปทำกิจกรรมหรือขอข้อมูลตามสถานศึกษา ผู้บริหารและครูอาจารย์ก็จะมองว่าจะเป็นการทำกิจกรรมด้านการพนันที่จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสถาบันถ้ามีการพนันก็จะเริ่มคิดว่ามาตรวจสอบโรงเรียนเรารึเปล่า เด็กเราติดการพนันมั้ย เหมือนยุคหนึ่งที่บอกว่าวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์กันได้นะถ้ารู้จักป้องกัน กระทั่งระยะหลังมีข้อกำหนดให้สอนเรื่องเพศแก่เด็ก แต่เรื่องพนันยังไม่มีในหลักสูตร ถ้าบังคับในหลักสูตรเพื่อปลูกฝังทัศนคติและรู้เท่าทันภัยพนัน แต่สถานการศึกษาอาจจะปิดกั้น เกรงใจ และกลัว

          การที่ยังไม่มีเครื่องมือที่เป็นหลักสูตรบังคับให้ต้องใช้ เหมือนเป็นแค่งานรณรงค์ว่าให้ลดละเลิก เล่นการพนันในช่วงเทศกาลแต่ไม่บอกวิธีการแก้ปัญหาในระยะยาว เช่น เดินรณรงค์รอบหมู่บ้านแล้วก็จบไปคนในชุมชนก็ไม่เข้าใจ เช่นเดียวกันเมื่อเราสอนเด็กและเยาวชนแต่ไม่มีหนังสือแบบเรียน หรือไม่มีข้อกำหนดจากกระทรวง หน่วยงานองค์กรที่เป็นของภาครัฐที่กำหนดให้ดำเนินการมันก็ทำได้ยาก เราก็เลยใช้ประสบการณ์ชีวิตในด้านลบมาพูดเป็นตัวอย่าง เป็นบทเรียน แต่ถ้ามีแบบเรียนหรือข้อกำหนดชัดเจน ก็จะสามารถนำมาอ้างอิงให้น่าเชื่อถือว่าได้ ว่าประสบการณ์ที่เคยประสบมันตรงกับที่เขียนไว้อย่างไรบ้าง ทางรัฐบาลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ควรมี ถ้ามีเครื่องมือตัวนี้เราก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น

 

“มีงานวิจัยที่ระบุถึงผู้มีปัญหาการพนัน 1 คน จะส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างอีก  8 คน ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ยืมเงิน ขโมย อาชญากรรมต่าง ๆ ตามมา”

การเข้าไปให้ความรู้และจัดกิจกรรมกับเด็กและเยาวชนให้มีความเข้าใจเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วคุณทำอย่างไร?

          เราถนัดการให้ความสนุกสนานมากกว่าที่จะเป็นวิชาการ มันน่าจะเข้ากับความต้องการด้านความสุขของเด็ก เด็กก็สนใจฟังว่ามันเป็นข้อมูลใหม่ เด็กตื่นเต้นและสนุกกับสิ่งที่เราจำลองเสมือนเป็นการพนัน เป็นความรู้ใหม่และสะท้อนให้เห็นว่าพ่อแม่เขาเล่น เช่น เราถามว่าพ่อแม่ใครเล่นบ้าง เด็กก็ยกมือกันมากมาย บางคนเคยซื้อหวยให้พ่อแม่ บางคนเห็นพ่อแม่เล่น และบางคนก็มีประสบการณ์เล่นกับเพื่อน เช่น ดีดลูกแก้ว ก็เชื่อมโยงไปถามว่านอกจากที่เราเล่ามา การพนันมีอะไรอีก เขาก็เล่าสิ่งที่ใกล้ตัว คือออนไลน์ นั่นแสดงว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เราสื่อสาร ถึงแม้ว่าเด็กตื่นเต้นกับข้อมูลใหม่แต่เขากลับไม่คิดว่ามันเป็นภัยร้าย ถ้าถามว่า อะไรคือปัญหาของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน เด็กก็มักจะตอบเหล้า บุหรี่ การพนัน ท้องไม่พร้อม เด็กแว๊น พนันจะมาลำดับท้าย ๆ แต่เขาไม่นึกว่าถ้าบังเอิญไปเล่นแล้วติดจะส่งผลกระทบต่อเขาอย่างไรบ้าง ดังนั้น เหมือนเขาแค่รับรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ยังไม่ส่งผลต่อยอดไปถึงการปรับพฤติกรรมเท่าที่ควร

 

สำหรับปัญหาการพนันมองแนวโน้มเรื่องออนไลน์ในอนาคต มีผลต่อการเพิ่มจำนวนนักพนันหน้าใหม่ที่เป็นเด็กและเยาวชนว่าอย่างไร?

          ออนไลน์มันสะดวกก็จริงแต่ปัญหามันจะแย่ลงชัดเจน เด็กและเยาวชนรับรู้แค่เพียงไม่ใช่ปัญหาหลักในชีวิตเขา เพราะบางคนไม่เคยเล่น และไม่คิดว่าจะติด แต่อย่าลืมว่ามีงานวิจัยที่ระบุถึงผู้มีปัญหาการพนัน 1 คน จะส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างอีก  8 คน ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ยืมเงิน ขโมย อาชญากรรมต่าง ๆ ตามมา ด้วยเด็กและเยาวชนยังไม่มีชุดประสบการณ์ที่จะบอกให้เขารู้ว่า เขาอาจจะเป็นเหยื่อที่ได้รับกระทบอยู่เช่นกัน เช่น ทำไมบ้านยากจน ก็เพราะพ่อแม่เล่นการพนัน ส่งผลให้ครอบครัวเกิดความเครียด เครียดก็ดื่มเหล้า นำความรุณแรงสู่คนในครอบครัว ในที่สุดเจ้ามือพนันรวยเพราะเขามีวิธีการที่จะเอาเงินจากครอบครัวไป ในช่วงแรก ๆ ของการเล่นพนัน หลายคนละจำประสบการณ์ที่เคยเป็นผู้ชนะพนัน แต่มักจะไม่จดจำช่วงเวลาที่สูญเสียจากการพนันเพราะคิดว่าจะเอาต้นทุนคืนได้ แต่การออกแบบเกมให้เกิดการเสพติดพนัน เจ้ามือย่อมได้เปรียบ ฉะนั้นในที่สุดโอกาสชนะพนันจึงเป็นได้น้อยมากเพราะเจ้ามือเป็นผู้ออกแบบกติการและผลกำไร และในอนาคตช่องทางการพนันออนไลน์ที่สะดวกจะดึงเงินจากกระเป๋าตังค์เด็ก ที่จะเป็นเหยื่อกันโอชะยิ่งกว่าผู้ใหญ่ และช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกที่เพิ่งจบลง เจ้ามือหรือบ่อนเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศกันหมด การใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย ล่าสุดเมื่อต้นปีที่เริ่มจากการแทงพนันที่ 50 บาท ตอนนี้พบว่าแค่ 30 บาท ก็เล่นได้แล้ว เด็กและเยาวชนก็เข้าถึงได้ง่าย โดยมีการพนันรูปแบบใหม่เข้ามาตามเทคโนโลยี อาจจะเป็นการพนันผ่านเกม และการแข่งขันกีฬาทุกประเภทก็จะมีการพนันทายผลกีฬาแฝงอยู่

ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่เราคุยกัน โดยเป็นปัญหาที่น่าวิตก เพราะถือเป็นภัยเงียบที่พร้อมจะกลืนกินอนาคตเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ภัยพนันในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกที่เพิ่งจบลง