บอกเล่าประเด็นเด่น (ฉบับ 14)

เด็กวัยรุ่นหมกมุ่นกับ “พนันฟุตบอล” มากกว่าผู้ใหญ่เสียอีก!!!

          วัยรุ่นจำนวนมากเข้ามาเป็น “เหยื่อ” การเล่นพนันฟุตบอล เพราะกีฬาฟุตบอลเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการเป็นวัยรุ่น คือ “ต้องเล่น ต้องดู ต้องรู้จัก” แถมยังเป็นเกมส์ที่มีความสนุก เป็นที่นิยม ที่สำคัญช่องทางการเล่นการพนันฟุตบอลมีความสะดวกและยากต่อการตรวจสอบจากผู้ปกครอง จึงส่งผลให้เยาวชนในเข้าสู่พื้นที่ของการพนันฟุตบอลได้อย่างรวดเร็วจนน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง!!!

 


ข้อเสนอเชิงนโยบายเรื่อง “การป้องกัน/ควบคุมการพนันฟุตบอลในสังคมไทย”

 

          การพนันฟุตบอลในปัจจุบันมีช่องทางที่สามารถเล่นได้มากขึ้น แนวโน้มรูปแบบของการเล่นพนันฟุตบอลได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เยาวชนและกลุ่มคนที่ติดการพนันจะเล่นผ่านโต๊ะพนันฟุตบอลในช่วงที่มีฟุตบอลรายการสำคัญ เช่น ฟุตบอลโลก ฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีป หรือฟุตบอลลีกในยุโรปที่ได้รับความนิยมจากคนไทย มาเป็น “เล่นทุกลีก เล่นทุกวัน ง่ายแค่มือคลิก” กล่าวคือ เป็นการเล่นผ่านเว็บไซต์ทางอินเตอร์เนต โดยถือว่าการเล่นพนันฟุตบอลเสมือนกิจวัตรประจำวัน ผ่านช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่ยากต่อการควบคุมในรูปแบบเดิมเพราะหลักฐานหรือการกระทำผิดไม่มีหลักฐานหรือโพยฟุตบอลก็ไม่ได้มีความจำเป็นเช่นในอดีต

          สำหรับตัวตนของคนที่ติดการพนันฟุตบอล ส่วนมากเกิดจากความชื่นชอบต่อทีมฟุตบอล ปรากฏการณ์ทางสังคมของกลุ่มคนเหล่านี้ที่ชื่นชอบในทีมเดียวกันมักจะมารวมตัวหรือรวมกลุ่มในการเชียร์ฟุตบอล และเอกลักษณ์ที่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ภายในกลุ่ม

          ทั้งนี้ การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนของคนที่ติดบอลหรือการคลั่งไคล้การดูกีฬาฟุตบอล ซึ่งสามารถจำแนกกลุ่มสาเหตุของการเข้าไปเล่นการพนันฟุตบอลได้ ดังนี้

          กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ครอบครัวไม่มีเวลาเอาใจใส่

          กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่เคยเห็นพ่อแม่เล่นการพนัน หรือมีประสบการณ์ในการร่วมเล่นการพนันตามพ่อแม่จนติดการพนัน

          กลุ่มที่ 3 กลุ่มคนที่อาศัยอยู่บริเวณที่แวดล้อมไปด้วยบ่อนการพนันในชุมชน

          กลุ่มที่ 4 กลุ่มคนที่ชื่นชอบชมฟุตบอล ชอบเตะฟุตบอล

          กลุ่มที่ 5 กลุ่มคนที่พ่ายแพ้ต่อการชี้นำของสื่อสารมวลชนบางประเภท

          โดยภาพรวมจะเห็นได้ว่ากลุ่มเยาวชนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเริ่มต้นเข้ามาติดการเล่นพนันฟุตบอลได้มากที่สุด ซึ่งในระยะยาวกลุ่มคนเหล่านี้จะกลายเป็นคนที่ติดการเล่นพนันฟุตบอลต่อไปเรื่อยๆ มากกว่าในช่วงวัยอื่น

       นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ที่หลงผิดแล้วตัดสินใจเลิกยุ่งกับการพนันฟุตบอล เกิดจาก

  1. การสำนึกถึงบทบาทความรับผิดชอบที่มีต่อครอบครัว

  2. การสำนึกถึงปัญหาด้านการเงิน

  3. ความช่วยเหลือจากเพื่อนและคนรอบข้าง

  4. การตระหนักจากข้อมูลเชิงเชิงวิชาการที่

  5. ในระยะที่ผ่านมา กลุ่มแฟนคลับฟุตบอลไทยมีความตื่นตัวมากขึ้น และการรณรงค์ผ่านการสร้างแม่แบบที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง

          จากข้อมูลสถานการณ์ปัญหาการพนันออนไลน์ดังกล่าว นำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบาย ดังต่อไปนี้

          1) จัดตั้งคณะทำงานเพื่อเฝ้าระวังและชี้เบาะแสการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการพนันฟุตบอลบนเว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ตให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและควรเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ให้ครอบคลุมถึงการกระทำที่มีลักษณะตั้งแต่ชี้ชวน ส่งเสริมให้เกิดการเล่นการพนันฟุตบอลออนไลน์

          2) ต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดกับบริษัทเอกชนด้านสื่อสารมวลชน ทั้งประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุโทรทัศน์ และสื่อบนอินเทอร์เน็ต

          3) ควรผลักดันให้มีการกำหนดบทลงโทษแก่นักกีฬา และบุคลากรในวงการกีฬาฟุตบอล (ผู้ฝึกสอน เจ้าของสโมสร ผู้บริหารสโมสร/องค์กรกีฬา ฯลฯ) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนัน

          4) ควรจัดต้งคณะทำงานเพื่อกำกับดูแล และตรวจสอบสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่มีการนำเสนอรายการกีฬาที่มีลักษณะล่อแหลมต่อการส่งเสริม และชี้ชวนให้เกิดการเล่นการพนันฟุตบอล

          5) ควรมีการบรรจุหัวข้อ ”ผลกระทบและบทเรียนจากปัญหาการพนัน” เข้าไปในหลักสูตรตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างความตระหนักถึงผลกระทบที่จะได้รับจากการเล่นการพนันประเภทต่างๆ

          6) ควรรณรงค์ เปิดพื้นที่สาธารณะ(ลักษณะเวทีกึ่งวิชาการ กิจกรรมประจำวันหยุด งานประจำปีของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย) เพื่อสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมการให้ความรู้ด้านการดูฟุตบอลอย่างสร้างสรรค์ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน สถานศึกษาจนถึงสถานที่ทำงาน

          7) ควรมีการสนับสนุนทุนการศึกษาวิจัยด้านนโยบายการจัดการปัญหาการพนันฟุตบอล รวมทั้งรูปแบบและโครงสร้างของและแนวทางในการจัดการปัญหาการพนันฟุตบอลและสังเคราะห์เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการปัญหาการพนันฟุตบอลในสังคมไทย

          8) กำหนดเป็นโยบายให้การแข่งขันฟุตบอลไทย พรีเมียร์ลีก และการแข่งขันรายการอื่นๆ ต้องไม่มีผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์หรือสื่อออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการเล่นการพนัน เข้ามาอยู่ในบริเวณรอบสนามฟุตบอลโดยเด็ดขาด

          9) ควรกำหนดจริยธรรมของการรายงานข่าวกีฬาไม่ให้มีเนื้อหาข่าวที่เป็นการส่งเสริมการเล่นการพนันฟุตบอล

          10) ควรมีการส่งเสริมให้เกิด “เครือข่ายเฝ้าระวังทางสังคมเกาะติดปัญหาการพนันฟุตบอล”

          11) ต้องผลักดันให้เกิดการรณรงค์ตัวอย่างที่ดีของการเล่นกีฬาฟุตบอล (ลักษณะนักกีฬาเยาวชนดีเด่น นักกีฬาฟุตบอลขวัญใจท้องถิ่น)